เกม FIFA จากค่าย EA Sports คือเกมกีฬาฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังมากที่สุดในโลกอย่างที่ทุกคนรู้ดี ถึงแม้จะไม่เคยเล่นแต่ก็เชื่อว่าจะต้องเคยได้ยินชื่อเสียงกันมาบ้าง นอกจากฐานแฟนเกมที่คลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลที่มีอยู่ทั่วโลกแล้ว FIFA ยังสร้างรายได้มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีให้แก่ผู้สร้าง แต่การอยู่จุดสูงสุดของวงการเกมก็ต้องสิ้นสุดลง เมื่อ EA Sports เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ FIFA หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ แล้วเลือกสร้างเกมฟุตบอลต่อด้วยตนเองในชื่อใหม่ว่า EA Sports FC
ความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง EA Sports และ FIFA
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา การร่วมมือกันระหว่างบริษัทเกม EA Sports และ FIFA มีอยู่เพื่อเรื่องเงินๆ ทองๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะถ้าหากย้อนไปเมื่อปี 1993 ในช่วงเวลาที่ EA Sports เริ่มคิดจะทำเกมฟุตบอลเป็นของตัวเอง พวกเขาก็มอง FIFA เป็นแค่เครื่องมือในการทำให้เกมฟุตบอลที่กำลังจะสร้างขึ้นติดตลาดเพียงเท่านั้น
EA Sports ในช่วงเวลานั้นโฟกัสแค่เกมกีฬาที่เป็นที่นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ฮอกกี้น้ำแข็ง หรือ อเมริกันฟุตบอล เนื่องจากตลาดกีฬาในประเทศค่อนข้างใหญ่และการันตีด้วยฐานแฟนคลับเหนียวแน่น แต่เกมกีฬาฟุตบอลนั้น EA Sports อยากจะสร้างไว้เพื่อเป็นทางเลือก ไม่ได้คาดหวังที่จะประสบความสำเร็จขนาดนั้น
ด้วยวิสัยทัศน์ของ EA Sports ที่เล็งเห็นว่าอะไรจะทำให้เกมของพวกเขาขายได้ ซึ่งคำตอบสำหรับเกมฟุตบอลที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นก็คือ การซื้อลิขสิทธิ์จากองค์กรกีฬายักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาล เช่นเดียวกับที่ EA Sports เคยปั้นเกม MADDEN NFL หรือ NHL ให้ติดตลาดได้ในระยะเวลาสั้นๆ ก็เพราะการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อนำโลโก้, เครดิต รวมไปถึงเสื้อผ้าทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ NFL และ NHL มาใช้ในเกม
แล้วช่วงเวลาที่ EA Sports กำลังพัฒนาเกมฟุตบอลอยู่ ก็ดันไปตรงกับการแข่งขันฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกากำลังจะเป็นเจ้าภาพในปี 1994 ตัวแทนจาก EA Sports จึงตัดสินใจเดินทางไปเจรจากับ FIFA ถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้ว FIFA ก็อนุญาตให้สร้างเกมฟุตบอลโดยสามารถนำชื่อของ FIFA ไปใช้งานได้ ถือเป็นการกำเนิดขึ้นของเกม FIFA International Soccer ที่ถูกวางขายครั้งแรกในเดือนธันวาคมปี 1993 ด้วยสัญญาฉบับแรกกับ FIFA เป็นระยะเวลา 5 ปี ก่อนจะขยายระยะเวลาของสัญญาอีกหลายครั้งในปี 1998, 2006 และ 2003
โดยตลอดเวลาที่ทั้งคู่ดำเนินธุรกิจร่วมกัน ก็ได้ผ่านอุปสรรคกันมามากมาย เช่น การเป็นรองเกมฟุตบอล Pro Evolution Soccer ของบริษัท Konami จนกระทั่งในปัจจุบัน FIFA ก็ได้กลายเป็นเกมที่สร้างกำไรให้ EA Sports มากที่สุดในโลก แต่เมื่อความสัมพันธ์ที่มาด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ความสัมพันธ์นั้นย่อมไม่ยั่งยืน เมื่อสัญญาของ EA Sports และ FIFA กำลังจะหมดลงในปี 2023 นี้ ทั้งสองฝ่ายต่างเล็งเห็นตรงกันว่าสามารถหาประโยชน์ที่มากขึ้นในแพลตฟอร์มนี้ได้ โดย EA Sports มองว่าเกมฟุตบอลของเขานั้นติดตลาดจนไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาใครอีกต่อไป ส่วน FIFA ก็มองว่าพวกเขาสมควรจะได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์มากกว่าเดิมเนื่องจากการขยายตัวของตลาดดิจิทัล
จนกระทั่งความกระหายในเงินตราของทั้งสองฝ่ายนำมาสู่ความแตกแยก เมื่อ EA Sports ประกาศไม่ต่อสัญญากับ FIFA และจะเดินหน้าสร้างเกมฟุตบอลในชื่อของตนเองว่า EA Sports FC ในปี 2023 เป็นต้นไป
เพราะ EA Sports หาเงินได้มากกว่าจึงเป็นเหตุ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ว่า EA Sports และ FIFA จะมองหาผลประโยชน์ที่มากกว่าเพื่อโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เพราะในมุมมองของ FIFA กลับมองว่าการทำสัญญาคู่ค้ากับ EA Sports ที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี เป็นการปิดโอกาสไม่ให้ดำเนินธุรกิจดิจิทัลกับลูกค้ารายอื่น จึงขอค่าลิขสิทธิ์ในสัญญาฉบับใหม่ด้วยมูลค่าสูงถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากสัญญาฉบับก่อนหน้านี้ และ FIFA เองต้องการลดระยะเวลาของสัญญาให้เหลือแค่ 4 ปี เพื่อสอดคล้องกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก
ในขณะเดียวกันฝั่ง EA Sports ก็ยังมั่นใจกับเกมฟุตบอลที่สามารถทำกำไรมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 และต้องการอิสระในการผลักดันให้เกมเดินหน้าไปยังทิศทางใหม่ๆ มากขึ้น อย่างเช่น การสร้างทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ต หรือแม้แต่ NFT ที่อ้างอิงจากตัวเกม โดยทั้งหมดทั้งปวง EA Sports ต้องการทำโดยไม่ต้องรอความเห็นความ FIFA
มากไปกว่านั้น EA Sports ยังค้นพบเหตุผลที่แท้จริงว่า ที่ผู้คนทั่วโลกหันมาสนใจในเกมของเขา ไม่ใช่เพราะตัวเกมที่มีแบรนด์ของ FIFA รับรอง แต่เป็นเพราะระบบเกมที่ยอดเยี่ยมจนมัดใจแฟนเกมได้สำเร็จ เช่น FUT หรือ FIFA Ultimate Team โหมดสร้างทีมในฝันที่ดูดเงินจากผู้เล่นได้อย่างมหาศาลในทุกๆ ปี และการทุ่มงบประมาณซื้อลิขสิทธิ์ชื่อทีมและชุดแข่งขันที่ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของ FIFA เลย เพราะฉะนั้นหากขาด FIFA ไป ซีรีส์ใหม่ๆ ของ EA Sports ก็จะไม่มีทางเสียประโยชน์แน่นอน
ด้วยเหตุผลนี้ EA Sports FC จึงยังคงเดินหน้าต่อไปโดยมีการใช้งานนักเตะ 19,000 คน, 700 ทีมฟุตบอล และ 30 ลีกฟุตบอลอย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าได้มีการเซ็นสัญญากับ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน และสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า เป็นพันธมิตรกันอย่างถูกต้องแล้
ทำไม EA Sports ถึงเลือกตัดความสัมพันธ์เอาป่านนี้?
หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า EA Sports เหมือนกับว่าจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ตั้งนานแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาตัดความสัมพันธ์กับ FIFA ในเวลานี้ จริงๆ แล้วถ้าหากเลือกได้ EA Sports ก็ไม่อยากจะต่อสัญญากับ FIFA ต่อไป เพราะการหายไปของชื่อ FIFA แน่นอนว่าต้องเกิดผลกระทบไม่มากก็น้อยกับตัวเกม หรืออาจจะไม่สามารถทำเงินได้เท่าเดิมอีกแล้ว แต่เพราะการเจรจาที่ใช้เวลานานกว่า 6 เดือนไม่เห็นผล ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องหยุดเจรจาและเดินตามทางของตังเอง
ทั้งนี้ EA Sports มั่นใจว่าสิ่งที่พวกเขามีอยู่ในกำมือนั่นก็คือ เกมระดับคุณภาพ และนั่นจะทำให้เกมฟุตบอลซีรีส์ใหม่ๆ ของพวกเขาเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเคยมีกรณีระหว่าง SI หรือ Sports Interactive ผู้พัฒนาเกม Championship Manager หรือ CM ตัดสินใจแยกทางจาก Eidos ผู้จัดจำหน่ายรายเก่า แล้วหันมาสร้างเกมซีรีส์ใหม่เป็นของตัวเองที่ชื่อว่า Football Manager หรือ FM ในปี 2003 แล้วก็เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือเกมเก่าไปได้ในที่สุด นั่นแสดงให้เห็นว่าชื่อเกมที่ติดหูไม่สำคัญไปกว่าคุณภาพของเกมแต่อย่างใด
KUBET และ สโมสรซีเอ โอซาซูน่า และ เซบีย่า จากลีก ลา ลีลา สเปน ได้ร่วมมือกัน
กลายเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการในทวีปเอเชีย 2022-2023
บทความแนะนำ
เพิ่มโอกาสถูกหวยด้วยเทคนิคการรูดหวย 19ประตู วิธีรูดหวยทำอย่างไร ซื้อหวยอย่างไรให้ถูกทุกงวด เคล็ดลับง่ายๆที่คอหวยตัวจริงต้องรู้
ปัจจุบันการเล่นสล็อตเว็บตรง นั้นถือว่าได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเล่นสล็อตเว็บตรงนั้นสามารถการันตีคุณภาพของเว็บไซต์หรือคาสิโนออนไลน์ที่สมาชิกเล่น
เมื่อชัยชนะของทีมเป็นสิ่งสำคัญ การยอมซื้อนักฟุตบอลที่มีฝีมือที่ยอดเยี่ยมด้วยค่าตัวมหาศาล ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการคว้าชัยชนะ การมีอันดับในลีกการแข่งขันที่ดี
