วงการพนันบอล หรือ แทงบอลออนไลน์ นั้นถือว่าเป็นกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบการพนันฟุตบอลอยู่แล้ว หรืออาจจะรวมไปถึงกลุ่มคนที่อยากหารายได้เสริมจากการพนันฟุตบอลด้วย ซึ่งหลายๆครั้งเราจะเห็นได้ว่า คำศัพท์พนันบอลเหล่านี้จะมีการใช้ที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ที่ ไม่ว่าจะเป็น บทความ คอลัมข่าว เว็บไซต์ บล็อก หรือกระทู้เกี่ยวกับฟุตบอลต่างๆ ซึ่งหลายครั้งอาจจะทำให้นักพนันบอลมือใหม่ หรืออาจจะรวมไปถึงมือเก่าที่เคยลงเดิมพันอยู่แล้วสับสนได้ วันนี้เราจึงรวบรวม “คำศัพท์พนันบอล” พร้อมเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างของการใช้งานมาให้ศึกษากันเผื่อวันหลังลงพนันบอลจะได้ไม่งงกันครับ
Table of Contents
ประเภทของการพนันบอล (รูปแบบการลงเดิมพัน)
Handicap (แฮนดิแคป)
แฮนดิแคปหรือที่ชาวตะวันตกเรียกว่า Asian Handicap เป็นวิธีแทงบอลอีกวิธีหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังได้แพร่ความนิยมไปยังทวีปอื่นๆทั่วโลกอีกด้วย แฮนดิแคปคือการเดิมพันที่ยึดแต้มต่อ-รอง ของทีมที่อ่อนกว่ากับทีมที่เก่งกว่าเป็นหลัก โดยทีมที่เก่งกว่าจะต่อแต้มให้กับอีกฝั่ง เพื่อให้การเดิมพันสูสีขึ้นนั่นเอง โดยทั่วไปจะมีแต้มต่อตั้งแต่ 0.25 ขึ้นไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความได้เปรียบเสียเปรียบของเกมการแข่งขัน
นอกจากนี้การพนันบอลแบบ แฮนดิแคป ยังมีการคิดค่าน้ำและอัตราการจ่ายที่แตกต่างกัน โดยรูปแบบค่าน้ำที่เป็นที่นิยมมีอยู่ 3แบบ คือ ค่าน้ำแบบมาเลย์ ค่าน้ำแบบฮ่องกง และค่าน้ำแบบยุโรป
รูปแบบการคิดค่าน้ำบอลแฮนดิแคป
- ค่าน้ำแบบมาเลย์ คือรูปแบบการคิดค่าน้ำโดยคำนึงถึงเงินทุนเป็นหลัก ซึ่งจะมีรูปแบบเป็น เครื่องหมายลบนำหน้า (-…..) เช่น -0.80, -0.95, 0.67 เป็นต้น หากผู้เล่นเดิมพันด้วยเงินทุน 100บาท ด้วยค่าน้ำ 0.80 เมื่อชนะจะได้กำไร 100บาท และเมื่อแพ้จะเสีย 80บาท ด้วยรูปแบบนี้จึงทำให้ค่าน้ำแบบมาเลย์ถูกเรียกว่า “เสียน้อยได้เต็ม”
- ค่าน้ำแบบฮ่องกง คือรูปแบบการคิดค่าน้ำโดยคำนึงถึงกำไรเป็นหลัก ซึ่งจะมีรูปแบบเป็น ตัวเลข 0._ ขึ้นไป เช่น 0.85, 1.64, 2.45 เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น หากลงเดิมพัน 100บาท ด้วยค่าน้ำ 1.64 เมื่อชนะจะได้เงินคืน 164บาท (ไม่รวมเงินทุน) เมื่อแพ้จะเสีย 100บาท โดยค่าน้ำแบบฮ่องกงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นค่าน้ำแบบ “เสียเต็มได้มาก” นั่นเอง
- ค่าน้ำแบบยุโรป คือรูปแบบการคิดค่าน้ำที่มีความคล้ายคลึงกับค่าน้ำแบบฮ่องกง แต่จะแตกต่างกันที่ค่าน้ำแบบยุโรปจะคิดรวมเงินทุนเข้าไปด้วย เช่น ลงเดิมพัน 100บาทด้วยค่าน้ำ 1.85 เมื่อชนะจะได้เงินคืน 185บาท (โดยที่ 100บาทคือเงินทุน และ 85บาทคือกำไรนั่นเอง) แต่หากแพ้เดิมพันจะเสีย 100บาทเต็ม
Over – Under (สูง/ต่ำ)
บอลสูงต่ำเป็นการพนันฟุตบอลโดย นับผลรวมคะแนนของทั้งสองทีม ว่ามีผลรวมคะแนนเป็นเท่าไร ซึ่งการพนันบอลแบบนี้จะไม่สนใจว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะ โดยสามารถเลือกแทงได้ทั้งแบบครึ่งเวลาและแบบเต็มเวลา ซึ่งราคาบอลของวิธีการแทงบอลแบบสกอร์สูง/ต่ำนี้ ส่วนมากแล้วจะมีเรทตั้งแต่ 2.0 ลูกขึ้นไป โดยราคาบอลนี้จะมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ ขึ้นอยู่กับความได้เปรียบของเกมการแข่งขัน และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ราคาบอลนั้นสามารถไหลขึ้นและลงได้ตลอดทั้งก่อนและระหว่างการแข่งขัน
Even – Odd (คู่/คี่)
การลงเดิมพันคู่คี่ถือว่าเป็นการพนันบอลอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากมีวิธีการเดิมพันที่ง่าย กติกาไม่ซับซ้อน และเหมาะสำหรับคนชอบเสี่ยงโชค โดยการพนันบอลแบบคู่/คี่นี้ จะมีวิธีการเล่นโดย ใช้ผลรวมของสกอร์การแข่งขัน ในแต่ละเกมเป็นตัวชี้วัดผลแพ้ชนะ ผู้เล่นเพียงแค่ทายผลรวมสกอร์ของการแข่งขัน โดยมีตัวเลือกอยู่เพียงแค่ 2ตัวเลือก คือ คู่ (Even) และ คี่ (Odd) นั่นเอง
1×2 หรือ PK หรือ Money Line (1คูณ2 หรือ พีเค หรือ มันนี่ไลน์)
บอล 1×2 เป็นการเดิมพันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภูมิภาคยุโรปและอเมริกา โดยการเดิมพันรูปแบบนี้จะ ยึดการทายผลของการแข่งขัน โดยไม่สนอัตราต่อรอง ซึ่งจะทำให้โอกาสของผลเดิมพันเกิดได้เพียง 3แบบ คือ
Mix Parlay (มิกซ์พาร์เลย์) หรือบอลชุด หรือบอลสเต็ป
บอลชุดเป็นประเภทการพนันบอลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยรูปแบบของการเดิมพันจะเป็นการนำรายการเดิมพันปกติเช่น แฮนดิแคป สูง/ต่ำ 1×2 รวมไปถึงการเดิมพันแบบพิเศษอื่นๆ หลายๆรายการมารวมไว้ในหนึ่งบิลเดิมพัน ซึ่งการเดิมพันแบบนี้จะไม่มีการจำกัดประเภทกีฬาของการเดิมพัน กล่าวคือผู้เดิมพันสามารถเลือกเดิมพันรวมหลายๆประเภทกีฬาได้ แต่ต้องไม่ซ้ำรายการแข่งขัน
สัญลักษณ์และตัวย่อในการแข่งขันและพนันบอล
- HT (Half Time) : ครึ่งแรก หรือการจบเวลาครึ่งแรก
- FT Full Time) : เต็มเวลา หรือการแข่งขันแบบเต็มเวลา 90 นาทีรวมการทดเวลาบาดเจ็บ
- N (Netural) : สนามกลาง
- Q (Qualify) : ทีมที่ผ่านเข้ารอบ
- U20 : ทีมที่อายุไม่เกิน 20
- W (Women) : หรือ ทีมหญิง
- F (Final Match) : นัดชิงชนะเลิศ
- HT (Half Time) : ครึ่งแรก หรือการจบเวลาครึ่งแรก
- FT Full Time) : เต็มเวลา หรือการแข่งขันแบบเต็มเวลา 90 นาทีรวมการทดเวลาบาดเจ็บ
- N (Netural) : สนามกลาง
- Q (Qualify) : ทีมที่ผ่านเข้ารอบ
- U20 : ทีมที่อายุไม่เกิน 20
- W (Women) : หรือ ทีมหญิง
- F (Final Match) : นัดชิงชนะเลิศ
วิธีดูราคาบอล
วิธีดูราคาบอลแฮนดิแคป
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นครับ การแทงบอลแบบแฮนดิแคปจะยึดเอาอัตราต่อรองของทีมเจ้าบ้านและทีมเยือนเป็นหลัก โดยตัวเลขของอัตราต่อรองนั้นจะอ้างอิงจากแนวโน้มและโอกาสการเกิดแพ้ชนะ รวมไปถึงความได้เปรียบเสียเปรียบของเกมการแข่งขัน ซึ่งแต้มต่อจะมีการขึ้นลงตามสถานการณ์ของการแข่งขันอยู่ตลอดเวลาทั้งก่อนและระหว่างการแข่งขัน โดยมีวิธีการดูอัตราต่อรองดังนี้
อัตราต่อรองบอลแฮนดิแคป
- ไม่มีทีมต่อ
หากทีมนั้นชนะ = ได้เต็ม
หากเสมอ = คืนเงินทุน
หากแพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = เสียครึ่ง
แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = กินเต็ม
เสมอ = ได้ครึ่ง
แพ้ = เสียเต็ม
*เรียกได้อีกแบบว่า ปป.
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ1 ลูก = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก = เสียเต็ม
เสมอ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
ชนะ 1 ลูก = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก = เสียเต็ม
เสมอ = ได้เต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ 1 ลูก = ได้ครึ่ง
ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = เสียเต็ม
แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก = เสียครึ่ง
แพ้ 2ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- ไม่มีทีมต่อ
- หากเดิมพันทีมชนะ = ได้เต็ม
- หากเสมอ = คืนเงินทุน
- หากแพ้ = เสียเต็ม
ปป.
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = เสียครึ่ง
- แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = กินเต็ม
- เสมอ = ได้ครึ่ง
- แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ1 ลูก = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = เสียเต็ม
- เสมอ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- ชนะ 1 ลูก = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = เสียเต็ม
- เสมอ = ได้เต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ 1 ลูก = ได้ครึ่ง
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = เสียเต็ม
- แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = เสียครึ่ง
- แพ้ 2ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ 1 ลูก = เสมอคืนทุน
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = เสียเต็ม
- แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = เสมอคืนทุน
- แพ้ 2 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ 1 ลูก = เสียครึ่ง
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = เสียเต็ม
- แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = ได้ครึ่ง
- แพ้ 2 ลูก = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ 1 ลูก = เสียเต็ม
- ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = เสียเต็ม
- แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- ชนะ 1ลุกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก ได้เต็ม
- แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
- ชนะ 2 ลูก = ได้ครึ่ง
- ชนะ 3 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
- เสมอ หรือ แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
- เสมอ หรือ ชนะ = ได้เต็ม
- แพ้ 1 ลูก = ได้เต็ม
- แพ้ 2 ลูก = เสี่ยครึ่ง
- แพ้ 3 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ 1 ลูก = เสมอคืนทุน
ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = เสียเต็ม
แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก = เสมอคืนทุน
แพ้ 2 ลูกขึ้นไป = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ 1 ลูก = เสียครึ่ง
ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = เสียเต็ม
แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
ชนะ 1 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก = ได้ครึ่ง
แพ้ 2 ลูก = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ 1 ลูก = เสียเต็ม
ชนะ 2 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = เสียเต็ม
แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
ชนะ 1ลุกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก ได้เต็ม
แพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมต่อ
ชนะ 2 ลูก = ได้ครึ่ง
ชนะ 3 ลูกขึ้นไป = ได้เต็ม
เสมอ หรือ แพ้ = เสียเต็ม
- กรณีเดิมพันทีมรอง
เสมอ หรือ ชนะ = ได้เต็ม
แพ้ 1 ลูก = ได้เต็ม
แพ้ 2 ลูก = เสี่ยครึ่ง
แพ้ 3 ลูกขึ้นไป เสียเต็ม
1. ราคาต่อรอง 0 หรือต่อเสมอ 2. ราคาต่อรอง 0.25 หรือ 0/0.5 หรือเสมอควบครึ่ง หรือ ปป. 3. ราคาต่อรอง 0.5 หรือ ครึ่งลูก 4. ราคาต่อรอง 0.5/1 หรื อ 0.75 หรือ ครึ่งควบลูก 5. ราคาต่อรอง 1 หรือ หนึ่งลูก 6. ราคาต่อรอง 1/1.5 หรือ 1.25 หรือ ลูกควบลูกครึ่ง 7. ราคาต่อรอง 1.5 หรือ ลูกครึ่ง 8.ราคาต่อรอง 1.5/2 หรือ ลูกครึ่งควบสอง
วิธีดูราคาบอลสูงต่ำ
การลงพนันบอลแบบสูงต่ำนั้นถือว่าเป็นการลงพนันบอลที่ง่ายมากๆเลยครับ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า บอลสูงต่ำคือการรวมสกอร์การแข่งขันของทั้งสองทีมโดยไม่ได้สนอัตราต่อรอง ซึ่งผู้เล่นสามารถลงเดิมพันได้ทั้งก่อนเริ่มการแข่งขัน และระหว่างการแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น
เรทราคา บอลสูงต่ำ 0.5 หรือครึ่งลูก
- ในส่วนมากแล้วหากเราเห็นเรทราคา 0.5 นี้ มักจะอยู่ในแมชที่ดำเนินการแข่งขันใกล้จบเกมส์แล้ว และ สกอร์ยังเป็น 0 – 0 อยู่นั้นเอง หากเราเดิมพันสูง เรทสูง-ต่ำที่ 0.5 และในเกมนั้น มีประเกิดขึ้นหลังจากเราลงเดิมพัน และจบเกมส์ด้วยสกอร์ 0 – 1 ในแมชนั้น เราก็จะชนะการเดิมพันนั้นทันที
เรทราคา บอลสูงต่ำ 1 หรือ หนึ่งลูก
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 0 = เดิมพันสูงเสียเต็ม / เดิมพันต่ำได้เต็ม
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 1 = เดิมพันสูงเสมอคืนทุน / เดิมพันต่ำเสมอคืนทุน
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 2 = เดิมพันสูงได้เต็ม / เดิมพันต่ำเสียเต็ม
เรทราคา บอลสูงต่ำ 1/1.5 หรือ หนึ่งลูกควบลูกครึ่ง
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 0 = เดิมพันสูงเสียเต็ม / เดิมพันต่ำได้เต็ม
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 1 = เดิมพันสูงเสียครึ่ง / เดิมพันต่ำได้ครึ่ง
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 2 = เดิมพันสูงได้เต็ม / เดิมพันต่ำเสียเต็ม
เรทราคา บอลสูงต่ำ 1.5 หรือ หนึ่งลูกครึ่ง
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 0 = เดิมพันสูงเสียเต็ม / เดิมพันต่ำได้เต็ม
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 1 = เดิมพันสูงเสียเต็ม / เดิมพันต่ำได้เต็ม
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 2 = เดิมพันสูงได้เต็ม / เดิมพันต่ำเสียเต็ม
เรทราคา บอลสูงต่ำ 1.5/2 หรือ หนึ่งลูกครึ่งควบสอง
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 0 = เดิมพันสูงเสียเต็ม / เดิมพันต่ำได้เต็ม
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 1 = เดิมพันสูงเสียเต็ม / เดิมพันต่ำได้เต็ม
- กรณีผลรวมสกอร์เท่ากับ 2 = เดิมพันสูงได้ครึ่ง / เดิมพันต่ำเสียครึ่ง
การเดิมพันบอลสด หรือบอลรันนิ่ง (Running)
“บอลสด” เป็นอีกหนึ่งประเภทการเดิมพันที่นักพนันบอลหลายๆคนชื่นชอบ ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการพนันบอลออนไลน์ที่ฮิตกันไปทั่วโลก เพราะการแทงบอลสดนั้น เราสามารถประเมินรูปแบบเกมเบื้องต้นได้ รวมไปถึงสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของผลการแข่งขันแบบสดๆได้ทันที ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำไห้นักพนันบอลสามารถคาดเดาเกมส์ได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสชนะเดิมพันได้มากขึ้นอีกด้วย
การวางเดิมพันแบบบอลสดนั้น ก็จะเหมือนกับการพนันบอลประเภทอื่นๆทั่วไป เช่น บอลแฮนดิแคป บอลสูงต่ำ บอล1×2 หรือแม้กระทั่ง บอลสเต็ป เองก็สามารถนำมาลงเดิมพันเป็นแบบสดได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการหรือเว็บพนันบอลต่างๆด้วย โดยจะมีแค่ช่วงเวลาการวางเดิมพันเท่านั้นที่ทำให้บอลสดแตกต่างออกไปจากการเดิมพันบอลแบบธรรมดา
ตัวอย่างการเล่นบอลสด
กติกาการเล่นบอลสด นั้นไม่มีอะไรยากหรือซับซ้อนเลยครับ โดยเริ่มแรกเราจะสามารถลงเดิมพันในรูปแบบที่เว็บพนันออนไลน์ได้กำหนดไว้ในระหว่างแมชนั้นๆ ว่ามีการเปิดเดิมพันในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปแบบการเดิมพันดังนี้
- ลงเดิมพันบอลสดแบบแฮนดิแคป (Handicap)
- ลงเดิมพันบอลสดแบบสูงต่ำ (Over – Under)
- ลงเดิมพันบอลสดแบบ PK หรือ 1×2
- ลงเดิมพันบอลสดรูปแบบพิเศษ เช่น การทายสกอร์ การทายลูกเตะมุม การทายจำนวนใบเหลือง/ใบแดง เป็นต้น
**หมายเหตุ ในการเดิมพันบอลสด ค่าน้ำบอลอาจจะมีการไหลขึ้นลงได้ตลอด ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการแพ้ชนะของการแข่งขัน โอกาสการทำประตู รวมไปถึงความได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละทีม และยังอาจจะมีปัจจัยเล็กๆน้อยๆอื่นๆร่วมด้วย ดังนั้นในระหว่างการแทงบอลสดออนไลน์นั้น ผู้เล่นจะต้องหมั่นตรวจสอบอัตราจ่ายและค่าน้ำของการแข่งขันนั้น เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
ตัวอย่างการเล่นบอลสด
กติกาการเล่นบอลสด นั้นไม่มีอะไรยากหรือซับซ้อนเลยครับ โดยเริ่มแรกเราจะสามารถลงเดิมพันในรูปแบบที่เว็บพนันออนไลน์ได้กำหนดไว้ในระหว่างแมชนั้นๆ ว่ามีการเปิดเดิมพันในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปแบบการเดิมพันดังนี้
- ลงเดิมพันบอลสดแบบแฮนดิแคป (Handicap)
- ลงเดิมพันบอลสดแบบสูงต่ำ (Over – Under)
- ลงเดิมพันบอลสดแบบ PK หรือ 1×2
- ลงเดิมพันบอลสดรูปแบบพิเศษ เช่น การทายสกอร์ การทายลูกเตะมุม การทายจำนวนใบเหลือง/ใบแดง เป็นต้น
**หมายเหตุ ในการเดิมพันบอลสด ค่าน้ำบอลอาจจะมีการไหลขึ้นลงได้ตลอด ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการแพ้ชนะของการแข่งขัน โอกาสการทำประตู รวมไปถึงความได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละทีม และยังอาจจะมีปัจจัยเล็กๆน้อยๆอื่นๆร่วมด้วย ดังนั้นในระหว่างการแทงบอลสดออนไลน์นั้น ผู้เล่นจะต้องหมั่นตรวจสอบอัตราจ่ายและค่าน้ำของการแข่งขันนั้น เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
บทความแนะนำ
เช็คให้ดีก่อนโดนหลอกเล่นเว็บบาคาร่าที่ไม่ได้มาตรฐานกับ 7เช็คลิสต์ “เทคนิคการเลือกเว็บบาคาร่า” อย่างไรให้ปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อของเว็บพนันออนไลน์
เล่นบาคาร่าให้ได้เงินไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักวิธีและเทคนิคการเล่นที่ถูกต้อง เช็คให้ครบก่อนเล่นจริงหากไม่อยากหมดตัวจากการเล่นบาคาร่า
หาเงินง่ายๆด้วยสูตรแทงบอลแบบ 3-2-3 สูตรแทงบอลลับที่เซียนไม่เคยบอกคุณ มือใหม่หัดแทงบอลก็แทงได้ง่ายๆ ได้เงินไว