ร่วมนับถอยหลังสู่การแข่งขันฟุตบอลครั้งยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอมาอย่างยาวนาน กับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ณ ประเทศกาตาร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ โดยทั้งหมด 32 ทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะต้องเดินทางไปแข่งขันที่กาตาร์ และมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่จะเป็นแชมป์โลก ซึ่งฟุตบอลโลกครั้งนี้ ประเทศกาตาร์ ถือเป็นชาติแรกจากทวีปตะวันออกกลางที่จะได้เป็นเจ้าภาพด้วย KUBET ได้มีการรวบรวมโปรแกรมการแข่งขัน และสิ่งจำเป็นที่ต้องรู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลกปี 2022 มาให้ทุกคนได้อ่านแล้วที่นี่
ฟุตบอลโลก 2022 ปีนี้มีประเทศอะไรบ้าง
โซนเอเชีย | กาตาร์, ญี่ปุ่น, อิหร่าน, เกาหลีใต้, ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย |
โซนอเมริกาใต้ | บราซิล, อาร์เจนตินา, อุรุกวัย, เอกวาดอร์ |
โซนยุโรป | เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สเปน, โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, เยอรมัน, สวิตเซอร์แลนด์, โครเอเชีย, เซอร์เบีย, โปแลนด์, เวลส์ |
โซนคอนคาเคฟ | เม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, คอสตาริกา |
โซนแอฟริกา | เซเนกัล, โมร็อกโก, ตูนิเซีย, แคเมอรูน, กานา |
สนามที่ใช้ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
ในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลครั้งแรกในแถบตะวันออกกลางอย่าง ประเทศกาตาร์ จะต้องถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในปี 2022 จริงๆ แล้วการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะต้องเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิถุนายน ถึงเดือน กรกฎาคม แต่ด้วยในช่วงเดือนดังกล่าวจะร้อนมากๆ จึงจำเป็นต้องเลื่อนเป็นช่วงปลายปีในวันที่ 21 พฤศจิกายน และ ธันวาคม แทน โดยมีการเตรียมสนามรองรับการแข่งขันทั้งหมด 8 แห่ง ใน 5 เมืองของกาตาร์ ดังนี้
ชื่อเมือง | สนามกีฬา | ความจุ |
---|---|---|
ลูเซล | ลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม | 80,000 ที่นั่ง |
อัล คอร์ | อัล บายท์ สเตเดียม | 60,000 ที่นั่ง |
โดฮา | สเตเดียม 974 | 40,000 ที่นั่ง |
โดฮา | อัล ธูมามา สเตเดียม | 40,000 ที่นั่ง |
อัล รายยาน | เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม | 45,350 ที่นั่ง |
อัล รายยาน | อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม | 44,740 ที่นั่ง |
อัล รายยาน | คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม | 40,000 ที่นั่ง |
อัล วากราห์ | อัล จานูบ สเตเดียม | 40,000 ที่นั่ง |
ฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่ม
การจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2022 ได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยผู้ที่รับหน้าที่เป็นพิธีกรหลักของงานได้แก่ เจอร์เมน จีนาส, คาร์ลี ลอยด์ และซาแมนธา จอห์นสัน ส่วนหน้าที่จับสลากจะเป็นคนดังจากวงการฟุตบอลหลากหลายชาติ ได้แก่
- คาฟู ตัวแทนจาก บราซิล
- โลธาร์ มัทเธอุส ตัวแทนจาก เยอรมัน
- ดาเดล อาห์เหม็ด มัลอัลลาห์ ตัวแทนจาก กาตาร์
- อาลี ดาอี ตัวแทนจาก อิหร่าน
- โบรา มิลูติโนวิช ตัวแทนจาก เซอร์เบียร์
- เจย์เจย์ โอโคชา ตัวแทนจาก ไนจีเรีย
- ราบาห์ มาดเจอร์ ตัวแทนจาก แอลจีเรีย
- ทิมเคฮิลล์ ตัวแทนจาก ออสเตรเลีย
โดยผลการจับสลากได้ดังนี้
กลุ่ม A |
---|
กาตาร์ |
เอกวาดอร์ |
เซเนกัล |
เนเธอร์แลนด์ |
กลุ่ม B |
---|
อังกฤษ |
อิหร่าน |
สหรัฐอเมริกา |
เวลส์ |
กลุ่ม C |
---|
อาร์เจนตินา |
ซาอุดีอาระเบีย |
เม็กซิโก |
โปแลนด์ |
กลุ่ม D |
---|
ฝรั่งเศส |
ออสเตรเลีย |
เดนมาร์ก |
ตูนิเซีย |
กลุ่ม E |
---|
สเปน |
คอสตาริก้า |
เยอรมนี |
ญี่ปุ่น |
กลุ่ม F |
---|
เบลเยียม |
แคนาดา |
โมร็อกโก |
โครเอเชีย |
กลุ่ม G |
---|
บราซิล |
เซอร์เบีย |
สวิตเซอร์แลนด์ |
แคเมอรูน |
กลุ่ม H |
---|
โปรตุเกส |
กานา |
อุรุกวัย |
เกาหลีใต้ |
โปรแกรมและเวลาการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
21 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม |
---|
การแข่งขันอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลกจะเริ่มต้นขึ้นโดยทีมชาติ เซเนกัล จะประเดิมการแข่งขันเป็นคู่แรกพบกับ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งรอบแบ่งกลุ่มจะแข่งขันกันเสร็จสิ้นในวันที่ 2 ธันวาคม จะได้ทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 16 ทีม จาก 32 ทีม เข้าสู่รอบน็อคเอ้าต์ โดยตารางการแข่งขันและเวลาการแข่งขัน(ตามเวลาประเทศไทย) มีดังนี้ |
วันแข่ง | กลุ่ม | คู่แข่งขัน | เวลา |
20 พ.ย. | เอ | กาตาร์ – เอกวาดอร์ | 23.00 น. |
21 พ.ย. | บี | อังกฤษ – อิหร่าน | 20.00 น. |
21 พ.ย. | เอ | เซเนกัล – เนเธอร์แลนด์ | 23.00 น. |
21 พ.ย. | บี | สหรัฐอเมริกา – เวลส์ | 2.00 น. |
22 พ.ย. | ซี | อาร์เจนตินา – ซาอุดีอาระเบีย | 17.00 น. |
22 พ.ย. | ดี | เดนมาร์ก – ตูนิเซีย | 20.00 น. |
22 พ.ย. | ซี | เม็กซิโก – โปแลนด์ | 23.00 น. |
23 พ.ย. | ดี | ฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย | 2.00 น. |
23 พ.ย. | เอฟ | โมร็อกโก – โครเอเชีย | 17.00 น. |
23 พ.ย. | อี | เยอรมัน – ญี่ปุ่น | 20.00 น. |
23 พ.ย. | อี | สเปน – คอสตาริก้า | 23.00 น. |
23 พ.ย. | เอฟ | เบลเยียม – แคนาดา | 2.00 น. |
24 พ.ย. | จี | สวิตเซอร์แลนด์ – แคเมอรูน | 17.00 น. |
24 พ.ย. | เอช | อุรุกวัย – เกาหลีใต้ | 20.00 น. |
24 พ.ย. | เอช | โปรตุเกส – กนานา | 23.00 น. |
24 พ.ย. | จี | บราซิล – เซอร์เบีย | 2.00 น. |
25 พ.ย. | บี | เวลส์ – อิหร่าน | 17.00 น. |
25 พ.ย. | เอ | กาตาร์ – เซเนกัล | 20.00 น. |
25 พ.ย. | เอ | เนเธอร์แลนด์ – เอกวาดอร์ | 23.00 น. |
25 พ.ย. | บี | อังกฤษ – สหรัฐอเมริกา | 2.00 น. |
26 พ.ย. | ดี | ตูนิเซีย – ออสเตรเลีย | 17.00 น. |
26 พ.ย. | ซี | โปแลนด์ – ซาอุดีอาระเบีย | 20.00 น. |
26 พ.ย. | ดี | ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก | 23.00 น. |
26 พ.ย. | ซี | อาร์เจนตินา – เม็กซิโก | 2.00 น. |
27 พ.ย. | อี | ญี่ปุ่น – คอสตาริก้า | 17.00 น. |
27 พ.ย. | เอฟ | เบลเยียม – โมร็อกโก | 20.00 น. |
27 พ.ย. | เอฟ | โครเอเชีย – แคนาดา | 23.00 น. |
27 พ.ย. | อี | สเปน – เยอรมัน | 2.00 น. |
28 พ.ย. | จี | แคเมอรูน – เซอร์เบีย | 17.00 น. |
28 พ.ย. | เอช | เกาหลีใต้ – กานา | 20.00 น. |
28 พ.ย. | จี | บราซิล – สวิตเซอร์แลนด์ | 23.00 น. |
28 พ.ย. | เอช | โปรตุเกส – อุรุกวัย | 2.00 น. |
29 พ.ย. | เอ | เนเธอร์แลนด์ – กาตาร์ | 22.00 น. |
29 พ.ย. | เอ | เอกวาดอร์ – เซเนกัล | 22.00 น. |
29 พ.ย. | บี | เวลส์ – อังกฤษ | 2.00 น. |
29 พ.ย. | บี | อิหร่าน – สหรัฐอเมริกา | 2.00 น. |
30 พ.ย. | ดี | ตูนิเซีย – ฝรั่งเศส | 22.00 น. |
30 พ.ย. | ดี | ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก | 22.00 น. |
30 พ.ย. | ซี | โปแลนด์ – อาร์เจนตินา | 2.00 น. |
30 พ.ย. | ซี | ซาอุดีอาระเบีย – เม็กซิโก | 2.00 น. |
1 ธ.ค. | เอฟ | โครเอเชีย – เบลเยียม | 22.00 น. |
1 ธ.ค. | เอฟ | แคนาดา – โมร็อกโก | 22.00 น. |
1 ธ.ค. | อี | ญี่ปุ่น – สเปน | 2.00 น. |
1 ธ.ค. | อี | คอสตาริก้า – เยอรมัน | 2.00 น. |
2 ธ.ค. | เอช | เกาหลีใต้ – โปรตุเกส | 22.00 น. |
2 ธ.ค. | เอช | กานา – อุรุกวัย | 22.00 น. |
2 ธ.ค. | จี | แคเมอรูน – บราซิล | 2.00 น. |
2 ธ.ค. | จี | เซอร์เบีย – สวิตเซอร์แลนด์ | 2.00 น. |
3 - 6 ธันวาคม |
---|
แข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย |
3 ธ.ค. | เนเธอร์แลนด์ ชนะ สหรัฐอเมริกา | 22.00 น. | 3-1 |
3 ธ.ค. | อาร์เจนติน่า ชนะ ออสเตรเลีย | 02.00 น. | 2-1 |
4 ธ.ค. | ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์ | 22.00 น. | 3-1 |
4 ธ.ค. | อังกฤษ พบ เซเนกัล | 02.00 น. | 3-0 |
5 ธ.ค. | ญี่ปุ่น พบ โครเอเชีย | 22.00 น. | 3-1 (จุดโทษ) |
5 ธ.ค. | บราซิล พบ เกาหลีใต้ | 02.00 น. | 4-1 |
6 ธ.ค. | โมร็อกโก พบ สเปน | 22.00 น. | 3-0 (จุดโทษ) |
6 ธ.ค. | โปรตุเกส พบ สวิตเซอร์แลนด์ | 02.00 น. | 6-1 |
9 - 10 ธันวาคม |
---|
แข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย |
9 ธ.ค. | โครเอเชีย พบ บราซิล | 22.00 น. | 4-2(จุดโทษ) |
9 ธ.ค. | เนเธอร์แลนด์ พบ อาร์เจนตินา | 02.00 น. | 2-3(จุดโทษ) |
10 ธ.ค. | โมร็อกโก พบ โปรตุเกส | 22.00 น. | 1-0 |
10 ธ.ค. | อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส | 02.00 น. | 1-2 |
14-15 ธันวาคม |
---|
แข่งขันรอบ 4 ทีมสุดท้าย |
14 ธ.ค. | อาร์เจนตินา พบ โครเอเชีย | 02.00 น. | 3-0 |
15 ธ.ค. | ฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก | 02.00 น. | 2-0 |
17 ธันวาคม |
---|
แข่งขันรอบชิงอันดับ 3 |
17 ธ.ค. | โครเอเชีย พบ โมร็อกโก | 02.00 น. | 2-1 |
18 ธันวาคม |
---|
แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ |
18 ธ.ค. | อาร์เจนตินา พบ ฝรั่งเศส | 02.00 น. | 4-3(จุดโทษ) |
Al Rihla ลูกฟุตบอลสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
อาดิดาส หนึ่งในผู้สนับสนุนฟุตบอลโลกมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 14 ได้มีการผลิตลูกฟุตบอลให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีชื่อว่า ‘อัล ริห์ลา’ โดยผ่านการออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนที่ในอากาศได้เร็วกว่าลูกฟุตบอลทั่วไปที่เคยใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของการแข่งขันขั้นสูงสุด
คำว่า Al Rihla เป็นภาษาอาราบิก แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า The Journey หรือในภาษาไทยคือ ‘การเดินทาง’ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรม รูปทรงของเรือ และธงชาติประเทศกาตาร์
ฟรานซิสก้า ลอฟต์เฟลแมน ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบของอาดิดาสได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การแข่งขันฟุตบอลในยุคปัจจุบันได้มีการยกระดับความเร็วในการเล่นให้สูงขึ้น สมบัติด้านความแม่นยำและเสถียรภาพขณะเคลื่อนที่และลอยตัวในอากาศของลูกฟุตบอลนั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ถือว่ามีความยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา อาดิดาสจึงนำเอานวัตกรรมพิเศษมาใช้ในการสร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์คือ ‘อัล ริห์ลา’ ลูกฟุตบอลที่มีความรวดเร็วและแม่นยำสูงสุด
ราคาและการซื้อบัตรเข้าชมฟุตบอลโลก 2022
ในส่วนของราคาเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลกจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท และ 4 ราคา โดยในประเภทที่ 4 จะให้สิทธิ์เฉพาะผู้ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศกาตาร์เท่านั้นซึ่งจะมีราคาถูกที่สุด ดังนี้
รอบการแข่งขัน | ประเภทที่ 1 | ประเภทที่ 2 | ประเภทที่ 3 | ประเภทที่ 4 |
---|---|---|---|---|
เกมเปิดสนาม | 472 ปอนด์ | 336 ปอนด์ | 231 ปอนด์ | 42 ปอนด์ |
เกมรอบแบ่งกลุ่มคู่อื่น ๆ | 146 ปอนด์ | 126 ปอนด์ | 53 ปอนด์ | 8 ปอนด์ |
เกมรอบ 16 ทีม | 210 ปอนด์ | 157 ปอนด์ | 73 ปอนด์ | 15 ปอนด์ |
เกมรอบ 8 ทีม | 325 ปอนด์ | 220 ปอนด์ | 157 ปอนด์ | 63 ปอนด์ |
เกมรอบรองชนะเลิศ | 730 ปอนด์ | 503 ปอนด์ | 273 ปอนด์ | 105 ปอนด์ |
เกมรอบชิงอันดับสาม | 325 ปอนด์ | 231 ปอนด์ | 157 ปอนด์ | 63 ปอนด์ |
เกมรอบชิงชนะเลิศ | 1,227 ปอนด์ | 766 ปอนด์ | 461 ปอนด์ | 157 ปอนด์ |
ช่องทางซื้อบัตรเข้าชมฟุตบอลโลก 2022
สำหรับบัตรเข้าชมฟุตบอลโลกปีนี้ได้มีการเปิดจำหน่ายเฟสแรกไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจนถึง 29 มีนาคม โดยเป็นการจับสลากเลือกแฟนบอลว่าจะได้บัตรเข้าชมคู่ใดบ้าง
เฟสที่สอง เริ่มเปิดขายวันที่ 1 เมษายน โดยในครั้งนี้ผู้ชมสามารถเลือกซื้อคู่ที่ต้องการเข้าชมได้แล้ว แต่ก็ยังคงมีการสุ่มหาผู้โชคดีที่จะได้เข้าชมต่อไป นั่นหมายความว่า ซื้อแล้วก็ยังต้องมาลุ้นว่าจะได้เข้าชมหรือไม่
เฟสที่สาม เป็นเฟสสุดท้ายของการจำหน่ายบัตรเข้าชม โดยจะเป็นการจำหน่ายปกติและจะเปิดจำหน่ายไปจนกว่าบัตรจะหมด หรือสิ้นสุดการแข่งขัน
ในทุกๆ เฟสการจำหน่ายสามารถซื้อได้ที่ https://fifa.com/tickets
อย่างไรก็ตามสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้เน้นย้ำแฟนบอลที่เข้ามารับชมเกมในสนามทุกคนให้ปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบของประเทศเจ้าภาพอย่างเคร่งครัด โดยทั้งแฟนบอลในประเทศและต่างประเทศจะต้องสมัคร ‘Hayya Card’ บัตรใบอนุญาตเข้าประเทศกาตาร์ และเข้ารับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก (จะต้องใช้คู่กับบัตรเข้าชมที่ซื้อมา) ส่วนแฟนบอลที่มาจากต่างประเทศจะต้องยืนยันเกี่ยวกับที่พักอาศัยให้เรียบร้อยด้วย
ช่องทางรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
มีการรายงานผ่านสื่อกีฬาว่า ฟีฟ่า จะได้รับเงินจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกประมาณ 1.41 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 60,908 ล้านบาท
แฟนฟุตบอลโลกประเทศอังกฤษ สามารถรับชมได้ทางช่อง BBC และ ITV ซึ่งทั้งสองสถานีได้มีการรับหน้าที่ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ปี 2018 และครอบคลุมไปถึงสิทธิ์ในรายการโทรทัศน์ วิทยุ และช่องทางออนไลน์
แฟนฟุตบอลโลกประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถรับชมได้ทางช่อง Fox และ Telemundo ซึ่งทั้งสองช่องนี้ก็ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดจากทางฟีฟ่าไปจนถึงฟุตบอลโลกปี 2026
สำหรับแฟนฟุตบอลโลกชาวไทยสามารถรับชมได้ฟรีบน KUBET คาสิโนออนไลน์เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ และยังสามารถร่วมแทงบอลออนไลน์พร้อมรับค่าน้ำสูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย สมัครสมาชิกฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ประเทศไหนตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
อันดับ 1 บราซิล หลังจากผงาดขึ้นอันดับที่หนึ่งในการจัดอันดับของฟีฟ่า ก็นับว่าเป็นตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนี้ ด้วยดีกรีการได้แชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 5 สมัย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
อันดับที่ 2 ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดปี 2018 และอดีตแชมป์ 2 สมัย หลายคนคาดว่ามีโอกาสที่จะป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จสูงมาก
อันดับที่ 3 อังกฤษ จากการทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การได้อันดับ 4 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 และแชมป์ยูโร 2020 ทีมชาติอังกฤษต้องการที่จะทำลายสถิติ 56 ปี ที่ไม่เคยได้แชมป์เลยลงให้ได้
นอกจากนี้ ยังมีสเปน เยอรมัน และอาร์เจนตินา ที่มีสตาร์ระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ร่วมทีมอยู่ด้วย ส่วนเบลเยียมนั้นกำลังจะหมดยุคทองลงแล้วถ้าหากไม่อาจคว้าแชมป์ได้ในครั้งต่อๆ ไป ในขณะที่ โปรตุเกส เองก็หวังที่จะได้แชมป์ส่งท้ายสตาร์อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ซึ่งนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายกับการรับหน้าที่นักฟุตบอลทีมชาติของเขาเช่นเดียวกับ เมสซี่ ก็ได้
เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา FIFA ได้มีการปล่อยเพลงฟุตบอลโลกออกมาอย่างเป็นทางการ ขับร้องโดย ไอชา นักร้องสาวชื่อดังวัย 25 ของกาตาร์ ร่วมกับศิลปินชาวอเมริกัน ตรินิแดด และ ดาวิโด้ ทำนองเพลงมีความสนุกสนาน ผสมผสานเสียงร้องจากทวีปอเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลางได้อย่างลงตัว เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า ดนตรีและกีฬาฟุตบอลนั้นสามารถรวมโลกเป็นหนึ่งเดียวกันได้ โดยเชื่อว่าจะเป็นเพลงที่ติดหูของใครหลายๆ คนได้ง่ายด้วยคำว่า ‘Hayya Hayya’ ทั้งนี้เพลง Hayya Hayya หรือ Better Together เป็นเพียงเพลงบอลโลกเรียกน้ำย่อยก่อนจะมีการปล่อยซิงเกิลใหม่ๆ ที่จะใช้ในการประกอบการแข่งขันฟุตบอลโลกออกมาอีกครั้งก่อนวันจริง 21 พฤศจิกายน 2022 นี้
บทความแนะนำ
บาคาร่าเว็บตรงคืออะไร ทำไมนักเสี่ยงโชคส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะมองหาเว็บเหล่านี้มากกว่าที่จะเล่นกับเว็บอะไรก็ได้ มาไขข้อสงสัยให้กระจ่างกันโดยวิเคราะห์จาก 6 หัวข้อหลักๆ
เว็บแทงบอลออนไลน์ที่รวมความหลากหลายไว้ 1 เดียว พร้อมด้วยเว็บไซต์พันธมิตรแทงบอลออนไลน์มากที่สุดและดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด แทงบอลขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1 บาท
สำหรับเด็กๆ ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาฟุตบอล การถูกคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่างอาร์เซนอล ก็เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของอนาคตที่รุ่งโรจน์ของตัวนักเตะเอง